top of page
Writer's pictureGolf Thananthorn

ใบขับขี่แบบสมาร์ทการ์ด ใช้ได้ในกลุ่มอาเซียนทันที 10 ประเทศ

 

ใบขับขี่ smart card คืออะไร

ใบขับขี่สมาร์ทการ์ด คือ ใบขับขี่ที่มีการฝังชิปอิเล็กทรอนิกส์ไว้ภายใน ซึ่งชิปนี้สามารถเก็บข้อมูลสำคัญของผู้ขับขี่ได้ เช่น ชื่อ ที่อยู่ ประวัติการขับขี่ คะแนนสะสม หรือข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ยังสามารถเชื่อมต่อกับระบบคอมพิวเตอร์เพื่อทำการตรวจสอบข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ใบขับขี่ประเภทนี้ถูกนำมาใช้แทนใบขับขี่แบบกระดาษทั่วไป


โดยข้อมูลในใบขับขี่ smart card จะปรากฏเป็นทั้งรูปแบบภาษาไทยและรูปแบบภาษาอังกฤษร่วมด้วยกัน ซึ่งใบขับขี่สมาร์ทการ์ดนี้สามารถนำไปใช้ขับรถได้ในประเทศสมาชิกอาเซียน โดยไม่ต้องทำใบอนุญาตขับรถสากลหรือทำใบขับขี่สากลได้อีกด้วย

 


ใบขับขี่สมาร์ทการ์ดแตกต่างกับใบขับขี่ทั่วไปอย่างไร

บอกก่อนว่าลักษณะของใบขับขี่ทั่วไปกับใบขับขี่ Smart Card หน้าจะไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ แต่ก็จะมีจุดที่ชี้ชัดว่าใบขับขี่ของเราเป็นสมาร์ทการ์ดได้เช่นกัน เช่น มีคิวอาร์โค้ดที่ด้านหลังบัตร เป็นต้น


การเก็บข้อมูล

  • ใบขับขี่ Smart Card มีชิปอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถเก็บข้อมูลได้มากขึ้นและปลอดภัยกว่า สามารถเชื่อมต่อกับระบบต่างๆ ได้

  • ใบขับขี่ทั่วไป มักเป็นแบบกระดาษหรือพลาสติก มีข้อมูลจำกัดและไม่ได้มีชิปสำหรับเก็บข้อมูล


ความปลอดภัย

  • ใบขับขี่ Smart Card มีการเข้ารหัสข้อมูล ทำให้ยากต่อการปลอมแปลงหรือแก้ไขข้อมูล 

  • ใบขับขี่ทั่วไป ง่ายต่อการปลอมแปลงและแก้ไขข้อมูล


การตรวจสอบและการใช้งาน

  • ใบขับขี่ Smart Card สามารถใช้กับเครื่องอ่านการ์ดที่เชื่อมต่อกับระบบคอมพิวเตอร์ ทำให้การตรวจสอบข้อมูลเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

  • ใบขับขี่ทั่วไปต้องใช้การตรวจสอบด้วยตนเอง ซึ่งอาจจะใช้เวลานานและมีโอกาสเกิดความผิดพลาด


ความทนทาน

  • ใบขับขี่ Smart Card มีความทนทานสูงกว่า ไม่เสี่ยงต่อการฉีกขาดหรือเสียหายจากน้ำ

  • ใบขับขี่ทั่วไป ง่ายต่อการเสียหายและสึกกร่อนได้เร็วกว่า เนื่องจากทำมาจากกระดาษหรือพลาสติกทั่วไป


ใบขับขี่สมาร์ทการ์ดใช้ได้กี่ประเทศ

ใบขับขี่ Smart Card ของประเทศไทย ไม่สามารถใช้แทนใบขับขี่สากลได้ แต่จะใช้ได้กับ 10 ประเทศในอาเซียนเท่านั้น ใบขับขี่ไทยใช้ได้กี่ประเทศ อะไรบ้างดังนี้



ทั้งนี้ ใบขับขี่ไทยที่สามารถนำไปใช้ในประเทศที่กล่าวมาข้างต้น จะต้องเป็นแบบสมาร์ทการ์ดที่ระบุข้อมูลเจ้าของบัตรเป็นภาษาอังกฤษด้วย หากเป็นใบขับขี่แบบเก่า จะต้องดำเนินการขอรับใบขับขี่แบบสมาร์ทการ์ดเสียก่อน จึงจะสามารถนำไปใช้ในประเทศข้างต้นได้


อีกทั้งเจ้าของรถที่จดทะเบียนในประเทศไทย สามารถนำรถไปใช้ในกลุ่มประเทศอาเซียนได้ โดยจะต้องดำเนินการทางทะเบียนที่สำนักงานขนส่งที่รถคันนั้นจดทะเบียน เพื่อขอรับแผ่นป้ายทะเบียนภาษาอังกฤษสำหรับเข้ากลุ่มประเทศสมาชิก โดยเงื่อนไขการนำรถไปใช้ของแต่ละประเทศอาจแตกต่างกันไป


เกิดอยากไปท่องเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้านของเรา ก็ไม่ต้องไปทำใบขับขี่สากล ให้มันเสียเวลา อายุการใช้งานใบขับขี่สากลก็แค่ปีเดียว ด้วยรูปแบบใหม่เป็นบัตรพลาสติกซึ่งมีความคงทนถาวรกว่ารูปแบบเดิม มีความปลอดภัย น่าเชื่อถือ ด้วยเทคโนโลยีแถบข้อมูลแม่เหล็ก และเทคโนโลยี QR Code จัดเก็บข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมระบบบริหารจัดการด้านความปลอดภัยทางถนน เช่น รองรับการเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบ GPS Tracking เป็นเครื่องมือในการบันทึกข้อมูลการขับรถ


แต่ถึงจะมี ใบขับขี่สมาร์ทการ์ดแล้ว ไม่ใช่ว่าจะขับรถตามใจชอบได้นะ ควรศึกษากฏหมายจราจรของประเทศนั้น ๆ ซะก่อนอย่างเช่นประเทศที่พวงมาลัยซ้าย , ขับรถชิดขวา , และควรทำประกันการเดินทางติดตัวไว้ด้วย เพราะก็มีหลาย ๆ ประเทศที่มีความอันตรายบนท้องถนนเหมือนกัน และหวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อน ๆ ได้ไม่มากก็น้อย

3 views0 comments

Comments


bottom of page